ก่อนจะรู้ว่าติดโซลาร์เซลล์ต้องมีงบเท่าไหร่ และระบบไหนคุ้มค่าแก่การติดตั้ง เรามาทำความรู้จักระบบของโซลาร์เซลล์กันก่อนว่า แต่ละระบบมีวิธีการทำงานอย่างไร เพื่อการเลือกติดตั้งอย่างถูกต้องเหมาะสม
โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า จะมีระบบการทำงานด้วยกันอยู่ 3 ระบบ ได้แก่ ระบบออนกริด (On-Grid), ระบบออฟกริด (Off-Grid) และระบบไฮบริด (Hybrid) การเลือกใช้งานเราจะเลือกตามวัตถุประสงค์ และพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้านั่นเอง
ระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริด (On-Grid)
เป็นระบบโซลาร์เซลล์ที่เชื่อมต่อกับระบบสายส่งจากการไฟฟ้า แปลว่าระบบนี้จะช่วยประหยัดค่าไฟบางส่วนเท่านั้น ซึ่งแบบโซลาร์เซลล์ On-Grid จะมีแผงโซลาร์เซลล์ต่อเข้ากับอินเวอร์เตอร์ในการแปลงไฟฟ้าเป็นกระแสสลับ เพื่อให้ต่อกับระบบจ่ายไฟกับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจและจุดที่ควรรู้ ดังนี้
- ติดตั้งและบำรุงรักษาง่าย
- เหมาะกับโรงงานและอาคารบ้านเรือน
- ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ช่วยลดต้นทุน
- ใช้งานเฉพาะตอนกลางวัน หรือมีแสงแดดเท่านั้น
- ผลิตไฟฟ้าได้แล้วนำมาใช้เลย
- สามารถขายไฟคืนให้การไฟฟ้าได้ (สำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส ขายได้กับระบบโซลาร์เซลล์ที่ไม่เกิน 5 กิโลวัตต์ และสำหรับระบบไฟฟ้า 3 เฟส ขายได้กับระบบโซลาร์เซลล์ที่ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์)
- ต้องขออนุญาตการไฟฟ้าก่อนการติดตั้ง
ระบบโซลาร์เซลล์แบบออฟกริด (Off-Grid)
เป็นระบบที่ไม่ต้องพึ่งระบบไฟฟ้าส่วนกลาง (การไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ในการใช้พลังงาน พูดง่าย ๆ คือเป็นการติดตั้งแบบ Stand Alone สามารถต่อเจ้าตัวโซลาร์เซลล์เข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับกระแสไฟตรงได้เลย ทั้งนี้ระบบ Off-Grid มีจุดที่ควรรู้ ดังนี้
- มีต้นทุนการติดตั้ง และค่าซ่อมบำรุงรักษาสูง เพราะมีอุปกรณ์เสริมอยู่มาก
- เหมาะกับพื้นที่ห่างไกลไฟฟ้า เช่น ดอย เขา เกาะ หรือใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
- ไม่ต้องเสียค่าไฟให้การไฟฟ้าในแต่ละเดือน
- มีไฟใช้ตลอดแม้ยามฉุกเฉิน เช่น ไฟดับ ไฟตก เพราะมีแบตเตอรี่สำรอง
- ใช้ได้ในช่วงไม่มีแดด เพราะเป็นระบบผลิตพลังงานได้เอง
ระบบโซลาร์เซลล์แบบไฮบริด (Hybrid)
หรือเรียกอีกชื่อว่า ระบบโซลาร์เซลล์แบบผสม เป็นการนำข้อดีของระบบ On-Grid และ Off-Grid รวมเข้าด้วยกัน หากใช้ระบบนี้ นอกจากประหยัดค่าไฟฟ้ารายเดือนได้แล้ว เรายังสามารถสำรองไฟฟ้าไว้ใช้เมื่อยามฉุกเฉินได้อีกด้วย ส่วนระบบไฟฟ้าก็มีความเสถียรมาก เนื่องจากมีแหล่งจ่ายไฟทั้งจากตัวโซลาร์เซลล์ การไฟฟ้า และจากแบตเตอรี่นั่นเอง โดยระบบไฮบริดมีจุดเด่นและจุดที่ควรรู้ ดังนี้
- ระบบไฮบริดจะไม่สามารถขายกระแสไฟคืนให้การไฟฟ้าได้
- เป็นไฟฉุกเฉินในเวลาไฟขัดข้องได้ เนื่องจากมีแบตเตอรี่
- ลดค่าไฟได้มากที่สุด แต่การติดตั้งมีราคาสูงมาก ทำให้กว่าจะคืนทุนใช้เวลานาน